วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2550

การอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ


มีหลายคนมักถามผู้เขียนว่า “จะอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษอย่างไรให้รู้เรื่อง” เป็นคำถามที่เรามักได้ยินบ่อยๆ การอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษนั้นไม่ได้ยากกว่าที่เราคิดกัน แค่ให้รู้ว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน อ่านอย่างถูกวิธีเราก็สามารถเดาเรื่องในข่าวได้ แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม
ก่อนอื่นต้องรู้เบื้องต้นก่อนว่าข่าวประกอบไปด้วยส่วนต่างๆ เช่น
ส่วนแรก ได้แก่ Headline หรือที่บ้านเราเรียกว่า “พาดหัว”
ส่วนต่อไปเรียก Sub-Head หรือหัวรอง (บางทีก็ไม่มี)
ส่วนต่อไปเรียก ส่วนนำหรือ Lead
ถัดมาเรียก Body หรือตัวข่าว
ลองดูข่าวข้างล่างนี่ก่อนแล้วตอบคำถามในใจ(ไม่ต้องตอบดังๆ ก็ได้ เดี๋ยวชาวบ้านจะหาว่าบ้า )ว่า
Headline อยู่ไหน

Junta backs call for state religion
By Wassana Nanuam and Mongkol Bangprapa

CNS chairman Sonthi Boonyaratkalin, who is Muslim, said that recognising Buddhism as the national religion would have no impact on southern violence. "Whether or not the stipulation is added to the constitution, these thugs will continue their attacks," he said.
ถ้าเจอแล้ว ลองอ่านดูว่ารู้เรื่องหรือเปล่า ถ้าไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไร
ลองอ่านส่วนต่อไปที่เรียกว่าส่วนนำหรือLead ซึ่งจะบอกเราว่า
Who? ใคร
What? ทำอะไร
Where? ที่ไหน
When ? เมื่อไร
Why? ทำไม
How? อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ส่วนนำของข่าวอาจไม่มีทุกส่วนทั้งหมด แต่จะมีบางส่วนก็ได้ อาจมีแค่ Who What Where ก็มี
ตานี้มาลองดูกันทีละส่วน
Who? ในที่นี้เป็นCNS chairman Sonthi Boonyaratkalin พลเอกสนธิ บุญกลิน ประธาน คมช. หรือ CNS chairman (ย่อมาจาก Council of National Security) ส่วนวลีที่ว่า who is muslim นั้นเป็นส่วนขยายว่า ท่านเป็นมุสลิม เป็นคนเดียวกันกับพลเอกสนธิ

What? said that recognising Buddhism as the national religion would have no impact on southern violence กล่าวว่าการให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาตินั้นไม่มีผลกระทบต่อความรุนแรงในภาคใต้แต่อย่างใด
Where? ไม่ได้บอกตอนนี้
When ? ไม่มี
Why? ไม่บอกสาเหตุ
How? ก็ไม่มีในส่วนนี้ต้องอ่านส่วนต่อไป
หากต้องการทราบว่า ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ก็ให้ค่อยๆ อ่านในส่วนของเนื้อข่าวหรือ body
ลองอ่านดูนะครับ แล้วจะค่อยๆทะยอยนำมาเล่าสู่กันฟังเรื่อยๆ ครับ ลองฝึกอ่านดูบ่อยๆ จะเดาได้ในที่สุด

จากหนังสือพิมพ์ Bangkok Post วันที่ 25 เม.ย. 50

ไม่มีความคิดเห็น: